นาฬิกาผู้หญิงปี 2023

นาฬิกาผู้หญิงปี 2023 ในปัจจุบันนี้ความหมายและฟังก์ชัน ของนาฬิกานั้นมีการตีความที่มากยิ่งขึ้นเรียกได้ว่ามีการตีความที่กว้างขวางขึ้น นั่นเองเพราะวันนี้นาฬิกาไม่ใช่ เพียงแค่เครื่องบอกเวลาอย่างเดียวแล้วแต่ยังสามารถเป็นตัว ที่บ่งบอกไร้สไตล์การแต่งตัว และฐานะรวมไปถึงความสนใจส่วนตัวได้เช่นเดียวกัน เพราะบางเรือนที่คุณอาจจะซื้อนั้นได้มีการบ่งบอก ถึงเรื่องราวแรงบันดาลใจซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะสามารถย้อน กลับมาเป็นเครื่องแสดงตัวตนของคุณอย่างเลี่ยง ไม่ได้ดังนั้นแล้วหากถามว่านาฬิกาผู้หญิงแบรนด์ไหนดี ที่จะเหมาะกับคาแรคเตอร์ของคุณ และยังสามารถหยิบจับมาใช้ได้หลายโอกาสวันนี้เราจะมาแนะนำนาฬิกาผู้หญิงกัน
Tank Must de Cartier

Tank Must de Cartier เป็น Cartier ได้ทำการเปิดตัวนาฬิกานี้ ในครั้งแรกของช่วงยุค 70s-80s ซึ่งทั้งแปลนได้ทำการตั้งใจ ออกแบบให้เข้ากับผู้คนได้อย่างง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะมีราคาที่สามารถจับต้องได้และเมื่อในปีค.ศ 2022 ที่ผ่านมาทางแบรนด์ ก็ได้ทำการเปิดตัวหน้าปัดสีใหม่ถอด Total Black ที่มีความหมายคลาสสิกให้ความเรียบหรูความสุขคุ้ม และมีความเป็นทางการมากยิ่งขึ้นซึ่งหากสองสาวคนไหนที่ต้องการเปลี่ยนการแต่งตัว ของคุณให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ก็สามารถทำการเปลี่ยนสายเป็นสีน้ำตาลได้มาพร้อมกับขนาดหน้าปัด 29.5 มม x 22 มมขับเคลื่อนการทำงานด้วยกลไกระบบควอตซ์ ราคาอยู่ที่ 112,000 บาท
Rolex Oyster Perpetual

Rolex Oyster Perpetual เป็นรากฐานสำคัญ ในการออกแบบตัวเรือนของทางแบรนด์ Rolex เพราะได้รับการต่อยอดรูปลักษณ์ของตัวเรือนไปยัง Collection อื่นๆนั่นเองโดยในปีค.ศ 1926 ทางแบรนด์ได้ทำการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือน้ำ เรือนแรกของโลกซึ่งในช่วงแรกคอลเลคชั่นนี้ อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมและได้รับการตอบรับมาก เท่าที่ควรแต่บอกเลยว่าในปัจจุบันกลายเป็นรุ่น ที่ได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าได้มีการผลิตหน้าปัด หลากหลายสีสัดมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสีฟ้า Turquoise และล่าสุดในปีค.ศ 2023
นี้ทางแบรนด์ได้ทำการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ พร้อมกับหน้าปัดแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Celebration-Motif dial โดยมีสีสันที่สดใส ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแต่รุ่น ที่เราเลือกมาแนะนำให้คุณจะค่อนข้างเป็นตัวที่สามารถ ใช้ได้อย่างเป็นทางการซึ่งนั่นก็คือสี Silver มีการขัดแต่งแบบซันเรย์ ก็จะมีความมินิมอลและที่สำคัญคือคุณสามารถทำการใส่ได้กับในชีวิตประจำวัน มาพร้อมกับขนาดหน้าปัดให้เลือกได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น 28 31 และ 34 มม ขับเคลื่อนด้วยการทำงานกลไก automatic พร้อมพลังงานสำรองนาน 55 ชั่วโมงส่วนราคาจะอยู่ในช่วง 200,900 – 208,500 บาท
Bvlgari Serpenti Tubogas

Bvlgari Serpenti Tubogas คอลเลกชัน Serpenti เป็นหนึ่งในรุ่นสุดไอคอนิกส์ของทางแบรนด์ที่ได้ทำการผลิต ในครั้งแรกของยุคที่ 40s และได้มีการพัฒนาด้านการดีไซน์ ออกแบบมาเรื่อยๆในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งล่าสุดในปีค.ศ 2022 ที่ผ่านมาทางแบรนด์ ได้ทำการเปิดตัวนาฬิกา Serpenti Secret Watch ที่โดดเด่นด้วยการโชว์ความเป็นจิวเวลรี่ ได้เป็นอย่างดี ด้วยความพิเศษจะอยู่ตรงที่ปากของงูที่มีหน้าปัดนาฬิกาซ่อนรูปในปากส่วนตัวเรือน
ของนาฬิกา จะมีลักษณะเหมือนงูพันข้อมือ อันเป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ และสำหรับรุ่นที่เราอยากจะแนะนำ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ ซึ่งนั่นก็คือ Bvlgari Serpenti Tubogas โดดเด่นด้วยหน้าปัด ที่มีลักษณะเหมือนหัวงูพร้อมกับสายนาฬิกา ที่เป็นเหมือนตัวงูพันรอบข้อมือ ได้อย่างสวยงามและยังมีวัสดุตัวเรือน ให้คุณสามารถเลือกได้ 3 แบบได้แก่ Stainless Steel, Two Tone และ Full Gold อีก ทั้งยังมาพร้อมตัวเลือก ของสายแบบพันรอบเดียวหรือพัน 2 รอบนอกจากนี้ยังมีความหน้าปัดให้คุณสามารถเลือกได้ทั้งแบบเรียบ และ แบบขอเพชรขับเคลื่อนด้วยการทำงานกลไก ควอตซ์ ในส่วนของราคาสำหรับรุ่นเริ่มต้นจะอยู่ที่ 212,000 บาท
Patek Philippe Aquanaut

Patek Philippe Aquanaut คอลเลกชัน Aquanaut เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1997 หลังจากประสบความสำเร็จในการผลิต Collection Nautilus ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างสรรค์ นาฬิกา Aquanaut ก็เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ และ เหมาะกับผู้คนที่แต่งตัวแบบ Casual ไม่ทางการ โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบบ Chocolate Bar ซึ่ง ถือเป็นเหมือนการแบ่งช่องช็อกโกแลต ลายพื้นหน้าปัดแบบนี้
ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นของทางแบรนด์พร้อมกับขอบหน้าปัดทรงแปดเหลี่ยม โค้งมวลอันเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังรวมทั้งสายยางที่แตกต่างจากนาฬิการุ่นอื่น ๆ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “Tropical” สำหรับรุ่นนี้ลองแนะนำให้กับทุกคน ซึ่งนั่นก็คือตัวเรือนสีขาวที่มาด้วย ขอบเพชรจับคู่เข้ากับสายยางสีขาว ทำให้ภาพรวมของนาฬิการุ่นนี้ค่อนข้าง ที่จะให้ความ luxury และมีความเป็นทันสมัยอย่างมากด้วยราคาอยู่ที่ 748,900 บาท
Blancpain Ladybird

Blancpain Ladybird ได้ทำการเริ่มผลิตนาฬิกาผู้หญิง มาตั้งแต่ในยุค 1930 ซึ่งมีชื่อว่า The Rolls โดยถือได้ว่าเป็นนาฬิกา ข้อมือผู้หญิงแบบกลไกอัตโนมัติเรือนแรกของโลก และนอกจากในปีค.ศ 1933 คุณ Betty Fiechter ก็ได้เข้ามาบริหาร Blancpain ซึ่งเป็นผู้บริหารหญิงคนแรกของทางแบรนด์และอุตสาหกรรมของนาฬิกา ภายใต้การบริหารได้ทำการผลิต ตัวเรือนนาฬิกาที่มีความ luxury มาให้พวกคุณได้จับต้องมีการใส่กันมาจนถึงในปัจจุบันนี้ สำหรับรุ่นที่เราอยากจะแนะนำคุณนั่นก็คือ Blancpain Ladybird Colors นาฬิการุ่นใหม่ที่เพิ่งทำการเปิดตัวในปี 2023
มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบทั้งในรูปแบบหน้าปัดย่อยแสดงวินาที และข้างขึ้นข้างแรมซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มีฟังก์ชันนี้ เข้ามาอยู่ในนาฬิกา Jewelry ของทางแบรนด์อีกด้วย โดยลูกรักเฉพาะตัวของทางเรือนนี้ ได้มีการถ่ายทอดผ่านทางหน้าปัดที่ได้รับการดีไซน์เป็นพิเศษ แบบสมมาตรที่มีความงดงามอย่างลงตัว โดยได้ประกอบไปด้วยตัวเลขโรมันแบบ offset ที่ดูโดดเด่นเมื่ออยู่กับวงโค้งซ้อน ประดับเพชรอันแสนประณีต ที่มีการไล่ขนาดเรียวลงไปเชื่อมล้อม กับหน้าปัดย่อยวินาที และข้างขึ้นข้างแรมด้วยการประดับเพชร 70 เมตร Small Second ราคาจะอยู่ที่ 995,000 บาท ส่วนรุ่น Moon Phase ราคาจะอยู่ที่ 1,065,000 บาท
Audemars Piguet Royal Oak

Audemars Piguet Royal Oak เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ 1972 ถือได้ว่าเป็นนาฬิกาที่มาในแนวสปอร์ตหรูเดือนแรกของโลก ซึ่งช่วงแรกที่ผลิตออกมายอดขายตกลงอย่างมาก เนื่องจากว่านาฬิกามีลักษณะที่แปลกใหม่และแตกต่างจากรูปลักษณ์ ของนาฬิกาในยุคนั้นรวมถึงค่อนข้าง ที่จะมีราคาสูงและจะใช้วัตถุสแตนเลสก็ตาม จึงทำให้ยอดขายไม่ได้ดีอย่างที่ควรแต่ในทางกลับกันปัจจุบันนี้
กลายเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รูปทรงของหน้าปัดได้รับแรงบันดาลใจ มาจากดวงดำน้ำของหน้าปัดมาพร้อมน็อต 8 ตัวเกมทุกส่วนไว้ได้อย่างลงตัวอีกทั้งยังมีพื้นที่หน้าปัดหลายสี่เหลี่ยมที่ ถือได้ว่าคงเป็นความเอกลักษณ์ ของทางแบรนด์ได้อย่างสวยงาม โดยใกล้ตัวเรือนของอเมริกามีให้เลือกอยู่ 2 ขนาดคือ 34 และ 37 Mm ขับเคลื่อนการทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ ราคาจะอยู่ที่ 1,077,200 บาท และ 1,167,700 บาท
ติดตามข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ : http://boxknowledge.com/
ติดตามข้อมูลผ่านทาง FB ได้ที่ : https://www.facebook.com/Boxknowledge96